โต๊ะไม้แดง ไม้รัง เคยมีความนิยมอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ติดปัญหาว่าไม่เหมาะกับกลางแจ้ง ถึงแม้จะอยู่ในร่มไม้ชายคาก็ตาม แม้จะเป็นไม้เนื้อแข็งแต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพภูมิอากาศ เช่น หากโดนละอองฝนสาดเข้าบ่อยครั้ง ไม้อาจโก่งหรือบิดตัวได้ ขณะที่โต๊ะไม้ยางพารา ซึ่งเป็นสินค้ายอดนิยมเหมือนกันก็เหมาะกับงานในบ้านมากกว่า และเนื้อไม้ก็ยังไม่มีความสวยงาม ในขณะที่โต๊ะอาหารที่ทำด้วยไม้สัก เป็นตัวเลือกหนึ่งที่โดดเด่นในแง่คุณภาพเพราะทนแดด ทนฝน เนื่องจากเป็นไม้สักที่เดิมใช้ทำบ้านเรือนไทย ดังนั้นหายห่วงแน่นอนเรื่องความทนทาน และโต๊ะอาหารไม้สักยังสามารถตกแต่งได้หลายแนว เป็นต้น ใช้กระดาษทรายขัดแล้วเคลือบแลกเกอร์เพื่อโชว์ลายไม้ หรือใช้สีย้อมไม้เพื่อทำให้เกิดสีที่เข้ากับสไตล์การตกแต่ง ++ อันนี้ก็แล้วแต่ใจใครใจมัน คนแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน บางคนชอบลายไม้ดิบ บ้างนำมาขัดเคลือบและเกิดและขัดให้ขึ้นเงาลายไม้สวยเก๋ไก่ไปอีกแบบ แต่ที่แน่แน่ก็คือยิ่งลงแรงไปกับมันมากเท่าไหร่ค่าตัวย่อมเพิ่มมากขึ้น
รวมถึงโต๊ะอาหาร Outdoor ไม้สักเองต้องมีความคงทน มากพอสมควร เนื่องจากต้องผจญทั้งแดดและฝน เป็นเวลา 365 วัน ทั้งร้อนทั้งหนาวทุกรูปแบบ แต่เนื่องจากคนไทยทุกวันนี้ ในบางครั้งก็ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศ ไปทานอาหารนอกบ้าน หรือทานอาหารกลางแจ้ง ดีกว่ามัวแต่อุดอู้อยู่ในห้องครัวของตนเอง ซึ่งบางครั้งมันก็น่าเบื่อ ไปหาอะไรแปลกแปลกใหม่ๆนอกบ้าน ดีกว่ากันเยอะ
| 1.จะซื้อโต๊ะขนาดกี่ที่นั่งกันดี | ดูว่ายบ้านมีสมาชิกกี่คนซื้อให้เพียงพอต่อการใช้งานและดูว่ามีแขกมาทานอาหารที่บ้านด้วยบ่อยหรือไม่ |
| 2.ดูขนาดพื้นที่ตั้งของบ้านตนเอง | เพื่อที่ว่าซื้อโต๊ะอาหารมันจะได้เพียงพอต่อการใช้งานและมีที่สำหรับตั้งมันได้ด้วย |
| 3.จะซื้อโต๊ะในรูปทรงไหนดี | ที่เห็นกันมีส่วนมากจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าและรูปวงกลม ต้องดูขนาดพื้นที่ตั้งของบ้านตนเองว่าเหมาะสมกับแบบไหน |
| 4.มีโต๊ะหมุนได้สำหรับเลื่อนอาหาร | จะทำให้ราคาค่างวดแพงมากขึ้น หากว่าไม่ได้จำเป็นก็ไม่ควรซื้อ แต่ว่ามันเพิ่มความสะดวกสบาย ตอนรับประทานอาหารสำหรับคนหลาย ๆ คน |




